สกุลเงินต่างๆ ทั่วโลกจะมีหน่วยงานที่ดูแลค่าเงินของประเทศตัวเอง และ มีธนาคารกลางของประเทศนั้นเป็นผู้ดูแลสกุลเงิน อย่างเช่น ค่าเงินบาท หน่วยงานที่ดูแลคือ ธนาคารแห่งประเทศไทย
สำหรับสกุลเงินที่ซื้อขายในตลาดฟอเร็กซ์มีอยู่ 7 สกุลเงิน คือ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (USD) ยูโร (EUR) ปอนด์ (GBP) เยน (JPY) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) สวิสฟรังก์ (CHF) ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) และต่อไปจะมีอีก 1สกุลเงินเพิ่มเข้ามา นั่นคือ FOREX นั่นคือ สกุลเงินหยวนของจีนนั่นเอง เพราะว่า IMF ให้สกุลเงินของจีนเป็นสกุลเงินหลักมาตั้งแต่ปี 2559 โดยอันดับ1 ยังคงเป็นดอลลาร์สหรัฐ อันดับ 2 คือเงินยูโร ส่วนเงินหยวนของจีนจะอยู่ในอันดับ 3 แซงหน้าเงินเยนของญี่ปุ่น และการเข้ามาของเงินหยวนจีนนี้ก็ส่งผลกระทบน้ำหนักของสกุลเงินยูโร และ ดอลลาร์สหรัฐ เพราะว่าจีนนั้นเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของสหรัฐ
ธนาคารกลางจะคอยกำกับดูแล และ กำหนดอัตราดอกเบี้ยประจำปีของทุก ๆ สกุลเงิน และจะมีผลต่อการนำไปคำนวณค่า swap ในตลาด forex โดยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ดูแลสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ธนาคารกลางยุโรป ดูแลสกุลเงินยูโร ธนาคารกลางแห่งประเทศอังกฤษ ดูแลสกุลเงินปอนด์ ส่วนธนาคารกลางของญี่ปุ่น ดูแลสกุลเงินเยน ธนาคารกลางแห่งประเทศแคนาดา ดูแลสกุลเงินดอลลาร์แคนาดา ธนาคารกลางแห่งประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ดูแลสกุลเงิน สวิสฟรังก์ ธนาคารกลางออสเตรเลีย ดูแลสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย และ ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ดูแลสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
สกุลเงินสำรองในหลายประเทศทั่วโลก นั่นคือ สกุลเงินดอลลาร์ ดอลลาร์สหรัฐ รหัสสากลคือ ISO 4217โดย 1 ดอลลาร์สหรัฐมีค่าเท่ากับเกือบ 36 บาท
1 เซนต์ ว่า “เพนนี” , 5 เซนต์ ว่า “นิกเกิล, 10 เซนต์ ว่า “ไดม์” , 25 เซนต์ ว่า “ควอเตอร์” , 1 ดอลลาร์สหรัฐ ว่า “บั๊ก” และเรียก หนึ่งพันดอลลาร์สหรัฐ ว่า แกรนด์
สำหรับใครที่อยากเทรดฟอเร็กซ์ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร อยากให้คุณได้ลองมาขอคำปรึกษาจากแปซิฟิก โบรกเกอร์กันดูรับรองไม่ผิดหวัง แค่ลงทะเบียน การสมัครเปิดบัญชีเทรด ฝากเงิน และ เทรด เป็นต้น เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่มั่นใจในเรื่องของการลงทุน ขอให้คุณเข้ามาสอบถามได้เลย รับรองไม่ผิดหวัง