สำหรับดัชนีหุ้นสหรัฐ S&P500 และ Nasdaq มี All Time High สูงขึ้น หลังจากมีข่าวว่าสามารถใช้ พลาสม่าในการรักษา COVID 19 ได้ และเรื่องการผ่อนคลายความตึงเครียดกับจีน ทำให้คืนนี้ดัชนีหุ้นสหรัฐเปิดอาทิตย์มา S&P500 +0.7% และ Nasdaq +0.3% ไปอยู่ที่ All Time High คือ S&P500 อยู่ที่ 3,421 จุด ส่วน Nasdaq +0.3% อยู่ที่ 11,350 จุด
การที่ดัชนีหุ้นขึ้นมีจุดบวกเพิ่มขึ้นเกิดจาก 2 ปัจจัย ปัจจัยแรก คือ ทรัมป์ประกาศข่าวดีในการสู้โควิด 19 เพราะว่าทางสำนักงานอาหารและยาของสหรัฐ ได้อนุมัติให้ใช้พลาสมาในการรักษาผู้ป่วย และ ทำให้การจัดหายาทำได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยได้บอกว่าการอนุมัติครั้งนี้ว่าเป็น Major Therapeutic Breakthrough ถือว่าเป็นความก้าวหน้าในการรักษาที่สำคัญอย่างมาก และ ทรัมป์ยังประกาศด้วยว่า สหรัฐมีความจำเป็นจะต้องใช้แอพ WeChat ของจีน เพื่อทำธุรกิจกับจีน
บางคนอาจคิดว่า ตลาดหุ้นสหรัฐจะดีดตัวกลับขึ้นมาเป็น V-Shape แต่ความจริงแล้วการฟื้นฟูครั้งนี้จะเป็น K-Shape เสียมากกว่า โดยการฟื้นฟูแบบ K-Shape คือ ไม่ใช่หุ้นทุกกลุ่มจะดีดตัวเท่า ๆ กัน มีแต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเท่านั้น จึงทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ดีดขึ้นมาเหมือนขาของตัว k
แต่ในทางกลับกัน หุ้นในกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง นั่นคือ หุ้นสายการบิน การท่องเที่ยว และ บริษัทเล็ก ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในตลาดนั้น และ ฟื้นตัวได้ช้ามาก ทำให้หุ้นของบริษัทกลุ่มนี้เหมือนขาล่างของตัว k และยังคงมีความกดดันอย่างต่อเนื่อง
การลงทุนในช่วง k-shape จึงต้องเลือกกลุ่มในการลงทุนให้ถูกต้อง เพราะว่าไม่ใช้ทุกตลาดที่ปรับตัวขึ้นไปพร้อม ๆ กันได้
เพราะฉะนั้นคุณจะเห็นได้ว่า การลงทุนนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่เหมือนกัน หากคุณเพิ่งลงทุนใหม่ คุณควรพึ่งพาบริษัทโบรคเกอร์ดี ๆ สักแห่งหนึ่งที่มีทีมงานมืออาชีพคอยให้บริการอย่างเช่น แปซิฟิคโบรคเกอร์ ที่คอยแนะนำคุณตั้งแต่ขั้นเริ่มต้น ทำให้คุณสามารถเทรดฟอเร็กซ์ หรือ ลงทุนในด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รับรองเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
